วิธีการติดตั้งและใช้งาน Yarn
Yarn คือเครื่องมือสำหรับจัดการและติดตั้งแพ็กเกจของ JavaScript(Package Manager) ซึ่งพัฒนาขึ้นมาโดย Facebook ทำหน้าที่เหมือนกับ npm แต่มีข้อดีคือ
- ทำงานเร็วขึ้น (เพราะมี cache)
- ติดตั้งแพ็กเกจแบบ Deterministic (ได้ dependency เหมือนกันทุกครั้ง)
- รองรับการทำงานแบบ offline
- ใช้ไฟล์ lock (
yarn.lock
) เพื่อจัดการเวอร์ชันของแพ็กเกจ
การติดตั้ง Yarn
เราสามารถติดตั้ง Yarn มาใช้งานแทนที่ npm
ได้ด้วยทางเลือกต่างๆ ดังนี้
ติดตั้งผ่าน npm
เราสามารถใช้ npm
ติดตั้ง yarn
ด้วยคำสั่ง
npm install --global yarn
ติดตั้งผ่าน Homebrew (macOS)
บน MacOS คุณสามารถติดต้ัง yarn
โดยใช้ brew
ได้ด้วยคำสั่ง
brew install yarn
ตรวจสอบเวอร์ชัน
หลังจากติดตั้ง yarn
เรียบร้อยแล้วให้คุณลองตรวจสอบ Version ของ yarn
ที่อยู่ในเครื่องด้วยคำสั่ง
yarn --version
วิธีการใช้งาน Yarn
Create New Project
หลังจากที่เราทำการติดตั้ง yarn
ลงมาในเครื่องเรียบร้อย หลังจากนี้เราจะลองสร้าง Project ขึ้นมาใหม่โดยใช้คำสั่ง yarn init
ดังนี้
mkdir my-app
cd my-app
yarn init
จากนั้นตอบคำถามต่างๆ เช่น ชื่อโปรเจกต์, เวอร์ชัน, คำอธิบาย
ถ้าอยากใช้ค่า default ทุกอย่างเราสามารถใช้ -y
เพื่อตอบ yes ทุกๆข้อได้เลย
yarn init -y
Install Package
หลังจากสร้าง Project ใหม่ขึ้นมาเรียบร้อยในขั้นตอนต่อไปเราจะทำการติดตั้ง Package เข้ามาใหม่ โดยในตัวอย่างเราจะติดตั้ง Lodash เข้ามาใน Project ด้วยคำสั่ง
yarn add lodash
ถ้าเราต้องการติดตั้ง Package ต่างๆเข้าในใช้งานเฉพาะตอน Development เช่น Typescript, Jest, Mocha และอื่นๆ(ส่วนใหญ่เป็น Library สำหรับการทดสอบ)
yarn add typescript --dev
หรือเขียนสั้นๆด้วย -D
yarn add typescript -D
และถ้าเราต้องการติดตั้งหลายๆ Package พร้อมกันเราสามารถเว้นวรรคได้เลย เช่น
yarn add react react-dom
Remove Package
หลังจากที่เราไม่ต้องการใช้ Package ต่างๆเหล่านี้แล้วเราจำ Uninstall หรือ Remove ออกด้วยคำสั่ง
yarn remove lodash
Update Package
หลังจากที่เราใช้งานไปซักระยะแล้วต้องการ Update Packages ต่างๆใน Project นี้เราสามารถใช้คำสั่ง yarn upgrade
ได้เลย
yarn upgrade lodash
หรือถ้าจะ Update ทุก Packages เราจะใช้คำสั่ง
yarn upgrade
Install Dependencies
หลังจกาที่เรา Clone โปรเจกต์ลงมา ใน Project ของเราจะยังไม่มี Library ใดๆติดตั้งไว้เลย ดังนั้นก่อนที่เราจะ Run Project นี้เราต้องติดต้ัง Library หรือ Package ที่ Project นี้ต้องการก่อนด้วยคำสั่ง
yarn install
ซึ่ง yarn
จะติดตั้ง Packages ที่ได้ระบุไว้ใน package.json
และ yarn.lock
การ Run Script
นอกจากการติดตั้งและจัดการกับ Packages ต่างๆที่ได้ติดตั้งเข้ามาแล้ว เรายังสามารถระบุคำสั่งที่ใช้บ่อยๆไว้ใน package.json
ได้เลย ยกตัวอย่างเช่น
"scripts": {
"start": "node index.js",
"dev": "nodemon index.js"
}
เราสามารถเลือก run index.js โดยการใช้ yarn start
ได้เลย เราก็ไม่ต้องจำหลายคำสั่ง โดยเฉพาะในคำสั่งที่ต้องกำหนด Parameters เข้าไปหลายๆตัว
yarn start
yarn dev
ในการเรียกใช้งาน Script นั้นเราไม่ต้องพิมพ์ run
ยกเว้นว่าชื่อที่ใช้นั้นเป็นคำที่ตรงกับ yarn เช่นถ้าเราตั้งชื่อ Script เป็นตำว่า build เราต้องพิมพิ์ yarn run build
สรุปคำสั่งของ Yarn
คำสั่ง | npm | ความหมาย |
---|---|---|
yarn init |
npm init |
สร้างโปรเจกต์ใหม่ |
yarn add <pkg> |
npm install <pkg> |
ติดตั้ง dependencies |
yarn add <pkg> -D |
npm install --save-dev <pkg> |
ติดตั้ง devDependencies |
yarn remove <pkg> |
npm uninstall <pkg> |
ลบแพ็กเกจ |
yarn install |
npm install |
ติดตั้ง dependencies ทั้งหมด |
yarn upgrade |
npm update |
อัปเดตแพ็กเกจ |
yarn run <script> |
npm run <script> |
รันสคริปต์จาก package.json |
yarn cache clean |
npm cache clean --force |
ล้าง cache |
yarn global add <pkg> |
npm install -g <pkg> |
ติดตั้งแพ็กเกจแบบ global |